ประเทศไทยจะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางคาสิโนแห่งใหม่ของเอเชียได้หรือไม่?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิดเรื่องการทำให้ คาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากนักลงทุนต่างชาติ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ไปจนถึงนักวิชาการด้านเศรษฐกิจ เหตุผลสำคัญมาจากศักยภาพมหาศาลของประเทศไทยที่มีทำเลทองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวชั้นนำของโลก และมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเดินทางที่ทันสมัย

คำถามใหญ่ที่หลายฝ่ายกำลังถกเถียงคือ:
👉 ประเทศไทยจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็น “ศูนย์กลางคาสิโนแห่งใหม่ของเอเชีย” ต่อจากมาเก๊า สิงคโปร์ หรือเกนติ้งไฮแลนด์ได้จริงหรือไม่?

1. ภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมคาสิโนในเอเชีย

เพื่อจะเข้าใจศักยภาพของไทย จำเป็นต้องมองภาพรวมของตลาดคาสิโนในเอเชียก่อน

• มาเก๊า: ถือเป็น “ลาสเวกัสแห่งเอเชีย” มีรายได้จากการพนันสูงที่สุดในโลก แม้จะพึ่งพานักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่เป็นหลัก

• สิงคโปร์: มีเพียง 2 คาสิโนหลัก (Marina Bay Sands และ Resorts World Sentosa) แต่กลับสร้างรายได้มหาศาล พร้อมทั้งกลายเป็นแม่แบบของ “รีสอร์ทครบวงจร” ที่ผสมผสานความบันเทิง โรงแรม ศูนย์ประชุม และแหล่งช้อปปิ้ง

• มาเลเซีย: เกนติ้งไฮแลนด์เป็นตัวอย่างของคาสิโนที่พัฒนาควบคู่กับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ

• ฟิลิปปินส์: ใช้นโยบายเปิดเสรี มีคาสิโนหลายแห่งในมะนิลาและเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ

• กัมพูชา – ลาว – เมียนมา: แม้ไม่ใช่ศูนย์กลางใหญ่ แต่มีคาสิโนที่ดึงดูดนักพนันจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทย

เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ประเทศไทยยัง “ขาดหาย” จากแผนที่คาสิโนเอเชีย ทั้งที่มีปัจจัยพร้อมหลายประการ

2. เหตุผลที่ประเทศไทยถูกจับตา

2.1 ศักยภาพด้านการท่องเที่ยว

ก่อนเกิดโควิด-19 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 40 ล้านคนต่อปี เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาจากจีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย และยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและนิยมการท่องเที่ยวเชิงบันเทิง

2.2 ทำเลทองและโครงสร้างพื้นฐาน

ประเทศไทยมีสนามบินนานาชาติหลายแห่ง เชื่อมต่อการบินทั่วโลก กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา ต่างก็เป็นเมืองที่พร้อมรองรับรีสอร์ทครบวงจรระดับโลก

2.3 ฐานนักท่องเที่ยวภายในประเทศ

นอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนไทยเองก็นิยมเล่นพนันสูง แม้กฎหมายยังไม่รองรับ การมีคาสิโนถูกกฎหมายจึงอาจช่วยดึงผู้เล่นออกจากบ่อนเถื่อน

3. แนวคิด “รีสอร์ทครบวงจร” (Integrated Resort)

สิ่งที่ประเทศไทยกำลังศึกษาไม่ใช่แค่ “คาสิโน” เพียงอย่างเดียว แต่คือ ศูนย์กลางความบันเทิงครบวงจร ที่รวมเอา

• คาสิโน

• โรงแรมหรู

• ศูนย์การประชุม (MICE)

• ศูนย์การค้า

• สวนสนุกหรือพิพิธภัณฑ์

• พื้นที่จัดแสดงศิลปวัฒนธรรม

โมเดลนี้พิสูจน์แล้วในสิงคโปร์ว่า ไม่เพียงเพิ่มรายได้จากการพนัน แต่ยังยกระดับภาพลักษณ์ประเทศให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับพรีเมียม

4. พื้นที่ที่มีศักยภาพในประเทศไทย

4.1 กรุงเทพฯ และแม่น้ำเจ้าพระยา

กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว มีข่าวลือเกี่ยวกับการพัฒนา ย่านคลองเตย ให้เป็นโครงการขนาดใหญ่ริมแม่น้ำ คล้ายกับ Marina Bay Sands ของสิงคโปร์

4.2 พัทยาและ Eastern Economic Corridor (EEC)

EEC ถูกกำหนดให้เป็นเขตเศรษฐกิจใหม่ของไทย ใกล้สนามบินอู่ตะเภาและท่าเรือน้ำลึก พัทยาเองก็มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวและความบันเทิงอยู่แล้ว จึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสม

4.3 ภูเก็ต

ในฐานะเกาะท่องเที่ยวระดับโลก ภูเก็ตมีศักยภาพดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะจากยุโรปและรัสเซีย

4.4 เชียงใหม่

เมืองทางภาคเหนือที่มีเสน่ห์ด้านวัฒนธรรม อากาศเย็น และภูมิทัศน์ธรรมชาติ หากพัฒนาควบคู่กับรีสอร์ทครบวงจร อาจช่วยยืดเวลาพำนักของนักท่องเที่ยวได้

5. ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

หากประเทศไทยสามารถเปิดคาสิโนถูกกฎหมายได้สำเร็จ ผลประโยชน์ที่คาดการณ์คือ:

• การลงทุนจากต่างชาติ: มีการประเมินว่าโครงการรีสอร์ทครบวงจรอาจดึงดูดเงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

• การสร้างงาน: ทั้งงานโดยตรง (เช่น พนักงานโรงแรม คาสิโน) และงานทางอ้อม (ก่อสร้าง ขนส่ง ร้านอาหาร) รวมหลายหมื่นตำแหน่ง

• รายได้ภาษี: ช่วยให้รัฐสามารถเก็บรายได้เพื่อนำไปใช้พัฒนาสาธารณูปโภค

• การกระตุ้นการท่องเที่ยว: เพิ่มจำนวนผู้เข้าพักโรงแรม การใช้จ่ายร้านค้า และกิจกรรมทางวัฒนธรรม

6. ความท้าทายและความเสี่ยง

6.1 ความกังวลด้านสังคม

สังคมไทยบางส่วนยังมองว่าการพนันเป็นสิ่งไม่เหมาะสม และอาจสร้างปัญหาหนี้สินหรือความแตกแยกในครอบครัว

6.2 ความโปร่งใสและการกำกับดูแล

นักลงทุนระดับโลก โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ต้องการเห็น มาตรฐานกำกับดูแลที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการฟอกเงินและอาชญากรรมทางการเงิน

6.3 การแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน

กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ต่างมีคาสิโนที่ดำเนินการแล้ว หากไทยเข้าสู่ตลาดช้าเกินไป อาจเสียเปรียบด้านการลงทุน

7. มาตรการป้องกันผลกระทบทางสังคม

เพื่อสร้างความสมดุล ประเทศไทยอาจต้องเรียนรู้จากโมเดลสิงคโปร์ เช่น

• กำหนด ค่าธรรมเนียมเข้าคาสิโนสำหรับคนในประเทศ

• จำกัดพื้นที่คาสิโนไม่เกิน 5% ของรีสอร์ททั้งหมด

• จัดตั้ง ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาการพนัน

• ใช้ระบบตรวจสอบผู้เล่นเพื่อป้องกันการเข้าถึงของกลุ่มเสี่ยง

8. โอกาสที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางคาสิโนเอเชีย

หากโครงการรีสอร์ทครบวงจรถูกผลักดันจริง ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบหลายประการ:

• ปริมาณนักท่องเที่ยวสูง

• ทำเลศูนย์กลางการเดินทางในเอเชีย

• ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวถูกกว่าสิงคโปร์หรือมาเก๊า

• วัฒนธรรมและความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับ ความชัดเจนของนโยบาย การกำกับดูแลที่โปร่งใส และการมีส่วนร่วมของสังคม

9. มุมมองอนาคต

• ในระยะสั้น: การถกเถียงเรื่องคาสิโนยังคงดำเนินต่อไป อาจมีโครงการนำร่องเพียงหนึ่งหรือสองแห่งก่อน

• ในระยะกลาง: หากโครงการแรกประสบความสำเร็จ จะมีการขยายไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ

• ในระยะยาว: ประเทศไทยมีโอกาสจริงในการก้าวขึ้นมาเป็น หนึ่งในจุดหมายปลายทางคาสิโนชั้นนำของเอเชีย หากสามารถสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสังคมได้

สรุป

คำถามว่า “ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางคาสิโนใหม่ของเอเชียได้หรือไม่?” ยังไม่มีคำตอบชัดเจน แต่สิ่งที่แน่นอนคือ ประเทศไทยมีศักยภาพสูง ทั้งด้านการท่องเที่ยว ทำเล และความน่าสนใจของตลาด หากสามารถจัดการความเสี่ยงและกำหนดมาตรการควบคุมที่เข้มงวดได้ การก้าวขึ้นมาเป็น ศูนย์กลางคาสิโนแห่งใหม่ ก็ไม่ใช่ความฝันที่ไกลเกินเอื้อม